และแล้วก็ถึงสิ้นปี (งบประมาณข้าราชการ) จนได้ แต่ไม่ว่าจะสิ้นปีหรือสิ้นเดือน สำหรับบางคนก็เหมือนจะสิ้นใจอยู่วันยังค่ำ ไล่มาตั้งแต่ชะอวดช่วงนี้ทั้งเงียบทั้งเหงา แม่ค้านั่งหาวนอน แถวนี้เค้าถึงฟ้าถึงฝนกัน สัตว์น้ำจึงไม่ค่อยมี ที่จับได้เยอะก็เห็นจะมีแต่ปลาช่อน ส่วนแถวคูเต่าช่วงเดือนนี้ก็ดูจะเป็นปูดำที่ค่อนข้างหนาตา หันไปทางไหนก็ชูก้ามหราเต็มไปหมด
ทำให้นึกถึงปูดำอบวุ้นเว้นกันไปเลย เอิ๊ก! น้ำลายไหล เลยมาแถวปากพะยูน แถวนี้เค้ามีดีที่กุ้งกุลาดำ เดือนนี้เริ่มจับกันได้เต็มไม้เต็มมือ แล้วมาแวะกันที่ตลาดพัทลุง ช่วงนี้ซบเซา ลูกค้าบางตา ราวข่าวว่าเศรษฐกิจไม่ดี ส่วนที่ทะเลน้อยเดือนนี้ปลานิลดำยังครองตลาดเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือแม่ค้าเค้ามีการนำมาแปรรูปเป็นปลาแดดเดียวกันแล้วน๊า เป็นการเพิ่มมูลค่าที่น่าชื่นชม มีระบบการจัดการแปรรูปที่ดีแบบนี้ถึงจะจับได้ทีละเป็นร้อยๆกิโลก็ไม่เหลือให้ล้นตลาด การแปรรูปนอกจากจะแก้ปัญหาปลานิลล้นตลาดแล้ว ยังสามารถแก้ปัญหาเนื้อปลานิลเหม็นกลิ่นสาบโคลนได้อีกด้วย เยี่ยมๆ! ส่วนแถวลำปำชาวบ้านบอกว่าช่วงนี้น้ำทะเลได้หนุนเข้ามาถึงแดนดินถิ่นกุ้งนา ทำให้สาหร่ายตายเกิดการเน่าเสียของน้ำ ทำให้กุ้งนามีน้อยหาไปก็ไม่คุ้มทุน เสียเวลา ชาวบ้านจึงหันมาดักปูหาปลาแทน แถวท่าเสาช่วงนี้ชาวประมงเปลี่ยนจากไซนั่งมาเป็นการวางอวนลอย (อวน 3 ชั้น) เนื่องจากต้องเอาไซนั่งขึ้นมาทำความสะอาดตะใคร่น้ำและปฏิมึงลที่เกาะและตากแดด จึงทำให้ปริมาณกุ้งที่จับได้มีน้อย
มาติดตามกันว่า เขตไหน โซนไหน สัตว์น้ำอะไร จะมากน้อยเพียงใด มาดู!
ตลาดชะอวดและโซนทะเลน้อย...กุ้งก้ามกราม 3.5 กิโลกรัม ปลากดเหลืองหรือปลากดน้ำจืด 2.3 กิโลกรัม ปลากระดี่หม้อ 6 กิโลกรัม ปลากระสูบขีดหรือปลาโสด 53.5 กิโลกรัม ปลากราย 6.7 กิโลกรัม ปลากระสงหรือปลาช่อนไช 18 กิโลกรัม ปลาช่อน 125 กิโลกรัม ปลาชะโด 4 กิโลกรัม ปลาดุกด้าน 0.5 กิโลกรัม ปลาดุกอุย 4.2 กิโลกรัม ปลาตะเพียนขาว 9.5 กิโลกรัม ปลาตาแดง 12 กิโลกรัม ปลาตุม 2 กิโลกรัม ปลานิลดำ 122 กิโลกรัม ปลาสร้อยนกเขา 0.5 กิโลกรัม ปลาสลาด 81 กิโลกรัม ปลาสลิด 1 กิโลกรัม ปลาหมอช้างเหยียบหรือปลาตรับ 16 กิโลกรัม ปลาหมอไทย 1 กิโลกรัม (ปริมาณสัตว์น้ำกิโลกรัมต่อวัน)
เกาะใหญ่และโซนทะเลหลวง...กุ้งกระต่อมหรือกุ้งนา 430 กิโลกรัม กุ้งก้ามกราม 132 กิโลกรัม กุ้งกุลาดำ 5.3 กิโลกรัม ปลากดคันหลาว 15 กิโลกรัม ปลากดเหลืองหรือปลากดน้ำจืด 3 กิโลกรัม ปลากระทุงเหวปากแดง 5 กิโลกรัม ปลากระบอกขาว 0.5 กิโลกรัม ปลากระสูบขีดหรือปลาโสด 42 กิโลกรัม ปลากะพงหิน 3.5 กิโลกรัม ปลากระรังดอกแดง 2 กิโลกรัม ปลาโคบ 7 กิโลกรัม ปลาจิ้มฟันจระเข้ 17 กิโลกรัม ปลาช่อน 24 กิโลกรัม ปลาชะโด 5 กิโลกรัม ปลาชะโอน 0.2 กิโลกรัม ปลาดุกทะเลหรือปลามิหลัง 115 กิโลกรัม ปลาดุกอุย 0.7 กิโลกรัม ปลาตะกรับหรือปลาขี้ตัง 6.2 กิโลกรัม ปลาตะเพียนขาว 12 กิโลกรัม ปลาตาแดง 10 กิโลกรัม ปลานิลดำ 25 กิโลกรัม ปลาบู่ทราย 2.2 กิโลกรัม ปลาแป้นเล็ก 7.5 กิโลกรัม ปลาแป้นใหญ่ 1 กิโลกรัม ปลามะลิ 30 กิโลกรัม ปลาแมวหูขาว 45 กิโลกรัม ปลาลิงหรือปลาแกง 1 กิโลกรัม ปลาสร้อยนกเขา 162 กิโลกรัม ปลาสลาด 54 กิโลกรัม ปลาเสือพ่นน้ำ 0.7 กิโลกรัม ปลาหมอช้างเหยียบหรือปลาตรับ 55.5 กิโลกรัม ปลาหัวแข็งหนวดอ่อน 310 กิโลกรัม ปลาหัวอ่อนหนวดแข็ง 215 กิโลกรัม ปลาไหล 2 กิโลกรัม (ปริมาณสัตว์น้ำกิโลกรัมต่อวัน)
คูขุดปากพะยูนและโซนทะเลสาบตอนใน...กุ้งกระต่อมหรือกุ้งนา 70 กิโลกรัม กุ้งก้ามกราม 127.5 กิโลกรัม กุ้งกุลาดำ 112.7 กิโลกรัม กุ้งแชบ๊วยหรือกุ้งหางแดง 30 กิโลกรัม กุ้งฝอยหรือกุ้งอ่อน 30 กิโลกรัม กุ้งตะกาดขาวหรือกุ้งหัวแข็งเล็ก 93 กิโลกรัม กุ้งตะกาดหรือกุ้งหัวแข็งใหญ่,กุ้งโอคั๊ก 24 กิโลกรัม กุ้งหัวมัน 61 กิโลกรัม ปลากดขี้ลิง 20 กิโลกรัม ปลากดเหลืองหรือปลากดน้ำจืด 1 กิโลกรัม ปลากระทุงเหวควาย 2 กิโลกรัม ปลากระบอกขาว 26 กิโลกรัม ปลากระสูบขีดหรือปลาโสด 21 กิโลกรัม ปลากะพงข้างปาน 0.1 กิโลกรัม ปลากะพงขาว 4 กิโลกรัม ปลากะพงหิน 2.3 กิโลกรัม ปลากะสงหรือปลาช่อนไช 2 กิโลกรัม ปลาโคบ 9 กิโลกรัม ปลาช่อน 389 กิโลกรัม ปลาดุกทะเลหรือปลามิหลัง 308 กิโลกรัม ปลาตะกรับหรือปลาขี้ตัง 47.8 กิโลกรัม ปลาท่องเที่ยว 50 กิโลกรัม ปลานิลดำ 136.5 กิโลกรัม ปลาบู่ทราย 0.8 กิโลกรัม ปลาบู่ทองหรือปลาทราย 0.3 กิโลกรัม ปลาแป้นเล็ก 6 กิโลกรัม ปลาแป้นใหญ่ 11 กิโลกรัม ปลามะลิ 3 กิโลกรัม ปลาแมวหูขาว 5 กิโลกรัม ปลาลิ้นหมาหรือปลายอดม่วง 3 กิโลกรัม ปลาวัวเล็ก 3.5 กิโลกรัม ปลาสร้อยนกเขา 5.5 กิโลกรัม ปลาสลาด 38.2 กิโลกรัม ปลาสลิดหินจุดขาวหรือปลาขี้ตังลาทา 7 กิโลกรัม ปลาสลิดหินจุดส้มใหญ่ 1 กิโลกรัม ปลาหมอช้างเหยียบหรือปลาตรับ 29 กิโลกรัม ปลาหมอไทย 1 กิโลกรัม ปลาหัวแข็งหนวดอ่อน 21.5 กิโลกรัม ปลาหัวอ่อนหนวดแข็ง 42 กิโลกรัม ปลาหางควายหางแถบ 0.1 กิโลกรัม ปลาอุบหรือปลาอีฆ้อง,ปลาคางคกทะเล,ปลาอีฆ้อง,ปลาคางคกทะเล 23 กิโลกรัม ปูดำ 30 กิโลกรัม ปูม้า 15 กิโลกรัม (ปริมาณสัตว์น้ำกิโลกรัมต่อวัน)
โซนทะเลสาบตอนนอก...กุ้งกุลาดำ 0.5 กิโลกรัม กุ้งกุลาลายหรือกุ้งตะเข็บ 0.1 กิโลกรัม กุ้งแชบ๊วยหรือกุ้งหางแดง 45 กิโลกรัม กุ้งฝอยหรือกุ้งอ่อน 4 กิโลกรัม กุ้งตะกาดขาวหรือกุ้งหัวแข็งเล็ก 353 กิโลกรัม กุ้งตะกาดหรือกุ้งหัวแข็งใหญ่,กุ้งโอคั๊ก 36 กิโลกรัม กุ้งหัวมัน 9 กิโลกรัม ปลากดขี้ลิง 20 กิโลกรัม ปลากระบอกขาว 21 กิโลกรัม ปลากระเบน 0.5 กิโลกรัม ปลากะพงขาว 1 กิโลกรัม ปลากะพงทองหรือปลาอั้งจ๊อ 0.2 กิโลกรัม ปลากะรังจุดส้ม 3 กิโลกรัม ปลาโคบ 5 กิโลกรัม ปลาดุกทะเลหรือปลามิหลัง 13 กิโลกรัม ปลาตะกรับหรือปลาขี้ตัง 20 กิโลกรัม ปลาท่องเที่ยว 10 กิโลกรัม ปลาบู่จุดเขียว 5 กิโลกรัม ปลาแป้นเล็ก 1 กิโลกรัม ปลาลิ้นหมาหรือปลายอดม่วง 0.5 กิโลกรัม ปลาสลิดหินจุดขาวหรือปลาขี้ตังลาทา 10 กิโลกรัม ปลาหัวแข็งหนวดอ่อน 5 กิโลกรัม ปลาหัวอ่อนหนวดแข็ง 19 กิโลกรัม ปลาหางควายหางแถบ 1.5 กิโลกรัม ปลาอุบหรือปลาอีฆ้อง,ปลาคางคกทะเล,ปลาอีฆ้อง,ปลาคางคกทะเล 2 กิโลกรัม ปูดำ 21 กิโลกรัม ปูม้า 98 กิโลกรัม (ปริมาณสัตว์น้ำกิโลกรัมต่อวัน)
อีกไม่กี่เดือนก็จะปีหน้าฟ้าใหม่แล้ว ตอนนี้ให้ก็ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ อดทนกันนะคะ คิดว่าฟ้าใหม่มาสถานการณ์ทุกอย่างก็น่าจะดีขึ้นบ้าง แต่ช่วงนี้ก็ระมัดระวังฟ้าฝนกันด้วยนะคะ แอบได้ยินกรมอุตุนิยมวิทยาเค้าพยากรณ์กันว่าปลาปีนี้น้ำท่าจะเกินบริบูรณ์ ฟ้าฝนก็จะแข่งกันคะนองกว่าปีที่แล้ว ดูแลรักษาตัวกันดีดี โชคดีกันถ้วนหน้าน๊าค๊าพี่น้องงงงงงง!
กมลศิริ รักกมล...รายงาน